5f17a6c5 meatmarket logo.png

Blog

เคยสงสัยไหมว่า กาแฟดำกับโอเลี้ยงต่างกันยังไง?

คอกาแฟหลายคนชอบกาแฟตรงที่มันเป็นเครื่องดื่มช่วยเพิ่มความสดชื่น ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า บ้างบอกว่าเป็นวิถีชีวิต ดื่มทุกวัน วันไหนไม่ได้ดื่มรู้สึกปวดหัวนิด ๆ กลิ่นและรสชาติของกาแฟทำให้หลายคนหลงใหล ทำให้รู้สึกสบายใจ ถ้าคืนไหนนอนหลับไม่พอ การได้ดื่มกาแฟสักถ้วยในเช้าวันใหม่ ช่วยให้รู้สึกสดชื่นพร้อมจะทำงานขึ้นในทันที นิสัยการดื่มกาแฟอาจจะเริ่มมาโดยไม่รู้ตัว เริ่มจากการสั่งโอเลี้ยงตามพ่อแม่ในร้านอาหารตามสั่ง แล้วโตมาก็พัฒนามาดื่มกาแฟในร้านคาเฟ่แฟรนไชส์ ว่าแต่เคยสงสัยกันว่าไหมว่า กาแฟดำกับโอเลี้ยงต่างกันอย่างไร พาไปหาคำตอบกันค่ะ

1. กาแฟดำคืออะไร?? กาแฟดำหรืออีกชื่อหนึ่งคืออเมริกาโน่ เป็นกาแฟที่ได้มาจากการชงผงกาแฟซองหรือเมล็ดกาแฟคั่วบดธรรมชาติ ไม่เติมสารให้ความหวานใด ๆ ชงโดยใช้เครื่องทำกาแฟ เรื่องมีอยู่ว่าคนอิตาลีจะนิยมทานเอสเพรสโซ่ กาแฟเข้มข้นที่เป็นพื้นฐานของกาแฟอย่างอื่นเช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ อเมริกาโน่ แต่คนอเมริกันบอกว่าเอสเพรสโซ่เข้มข้นไป เลยเอาไปผสมกับน้ำร้อนเพื่อเจือจางความเข้มข้นของเอสเพรสโซ่ โดยผสมน้ำร้อนในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 คือน้ำร้อน 2 ส่วน และเอสเพรสโซ่ 1 ส่วน ออกมาเป็นอเมริกาโน่ที่เรารู้จักกัน ซึ่งมีทั้งแบบร้อนไม่หวาน และแบบเย็นที่ใส่น้ำตาลหรือน้ำเชื่อม

*กาแฟเข้มข้นหรือเอสเพรสโซ่ นิยมใช้น้ำร้อน 60 มิลลิลิตรชงกับผงกาแฟคั่วบด 2 ช้อนโต๊ะ

2. โอเลี้ยงคืออะไร?? โอเลี้ยงหรือกาแฟโบราณ เป็นกาแฟที่มีการใส่เมล็ดธัญพืชลงไปคั่วบดรวมกับเมล็ดกาแฟ เช่นเมล็ดข้าวโพด เมล็ดมะขาม เพื่อลดต้นทุนและได้ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ นิยมชงโดยใช้ถุงชงดื่ม โอเลี้ยงมีต้นกำเนิดมาจากชาวจีนแต้จิ๋ว โอแปลว่า ดำ เลี้ยงแปลว่า เย็น หรือกาแฟดำเย็นนั่นเอง กาแฟโบราณนี้มีหลายชื่อ เช่น

  • โอเลี้ยง กาแฟดำเย็น ใส่น้ำตาล ทำให้มีรสหวาน
  • โอยัวะ ยัวะ แปลว่าร้อน หรือกาแฟดำร้อน อาจใส่น้ำตาลเพื่อให้มีรสหวาน
  • โอเลี้ยงยกล้อ คือโอเลี้ยงที่ใส่นมจืดด้วย สมัยก่อนนมจืดที่ขายมีโลโก้เป็นรูปจักรยาน พอใส่นมในโอเลี้ยง มันก็เหมือนกับยกล้อจักรยาน จึงเป็นที่มาของชื่อโอเลี้ยงยกล้อ
  • โอเลี้ยงจ้ำบ๊ะ คือโอเลี้ยงที่ใส่น้ำหวานสีแดงแทนน้ำตาล
  • โกปี๊ กาแฟดำที่ใส่นมข้นหวานแทนน้ำตาล คำว่าโกปี๊มาจาก Coffee สำเนียงภาคใต้ บางทีออกเสียง โกปี โกปิ๊ โกปี้ แล้วแต่ท้องถิ่น
  • กาแฟเย็น คือโอเลี้ยงใส่นมข้นหวานและนมจืด

ความเหมือนและความต่างของกาแฟดำและโอเลี้ยง

  • ความเหมือนของทั้งโอเลี้ยงและกาแฟดำคือมีสีดำเหมือนกัน และทำมาจากกาแฟเหมือนกัน
  • ความแตกต่าง คือโอเลี้ยงจะมีกลิ่นหอมของเมล็ดธัญพืชที่คั่วบดมาด้วย บางครั้งคั่วน้ำเชื่อมไปพร้อมกับเมล็ดกาแฟก็จะได้ความหอมเหมือนกลิ่นของคาราเมลด้วย และโอเลี้ยงมีรสชาติหวาน ไม่ขมเหมือนกาแฟดำ ทำให้บางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจริง ๆ แล้วโอเลี้ยงมีส่วนผสมของกาแฟด้วยนะ

ส่วนตัวผู้เขียนชอบเข้าร้านกาแฟตามคุณสามี เพราะว่าเขาชอบดื่มลาเต้ ชอบความหอมของกาแฟและนมอุ่น ๆ ต้องดื่มวันละสองแก้วเช้าแก้วบ่ายอีกแก้ว ถ้าไม่ดื่มแล้วจะปวดหัวตุบ ๆ ส่วนตัวผู้เขียนเองเริ่มให้ความสนใจกาแฟดำ เพราะว่ากันว่าคาเฟอีนในกาแฟ มีส่วนเพิ่มอัตราการเผาพลาญไขมัน ช่วยให้ผอมได้ เพียงแค่ดื่มก่อนออกกำลังกายตอนเช้า หรือหลังทานอาหารมื้อหนัก ๆ หรือจิบระหว่างวัน หลายคนอาจจะบอกว่าก็ดื่มอย่างนี้ทุกวันอยู่แล้วไม่เห็นจะผอมลงเลย อย่าลืมนะว่ากาแฟดำที่ดื่ม ต้องเป็นกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล

เมนูอเมริกาโน่มักนิยมในหมู่วัยรุ่นและวัยทำงาน มีจำหน่ายในร้านกาแฟแฟรนไชส์ชื่อดังต่าง ๆ ราคาเริ่มต้นแก้วละ 35 บาทขึ้นไป บางครั้งราคาสูงถึงแก้วละ 120 บาท ส่วนโอเลี้ยงได้รับความนิยมในหมู่คนโบราณ รุ่นคุณพ่อคุณแม่ ขายตามร้านกาแฟโบราณ หรือในร้านอาหารตามสั่งต่าง ๆ ราคาเริ่มต้นแก้วละ 25 บาท ไม่เกิน 40 บาท สำหรับคนที่ไม่อยากทานกาแฟเข้ม ๆ แต่อยากทานเครื่องดื่มหวาน ๆ ชื่นใจและทำให้ตื่นตัวก็แนะนำโอเลี้ยงอร่อยไม่ขมมาก แถมราคาจับต้องได้ แต่ทานมากไม่ดีนะเพราะมีรสชาติหวาน คนเป็นเบาหวานอาจจะต้อง ตะ ตะ เตือนไต กันสักหน่อย ส่วนกาแฟดำหรืออเมริกาโน่ ดื่มอันนี้ได้กลิ่นหอมของกาแฟแน่ ๆ ส่วนจะทานร้อนหรือเย็น อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ แต่ที่แน่ ๆ ราคาแรงได้เรื่อง ชอบอันไหนก็เลือกทานอันนั้นแหละเนอะ

อย่างไรก็ตามสำหรับคนดื่มกาแฟทั่วไปและคนที่จะดื่มกาแฟดำเพื่อการลดน้ำหนัก ต้องจำไว้ว่าไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้วนะ เพราะอาจจะทำให้หงุดหงิด นอนไม่หลับ ใจสั่นได้ อีกอย่างหนึ่งใช่ว่าดื่มกาแฟดำอย่างเดียวแล้วจะผอมได้นะ เพราะการลดน้ำหนักให้ได้ผล ควรออกกำลังกายให้สม่ำเสมอและควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วย ซึ่งสองข้อหลังนี่สำคัญมาก ผู้เขียนก็มีปัญหาในการทำอยู่เหมือนกัน ทั้งออกกำลังกายและควบคุมอาหาร 😎 ถึงว่าดื่มกาแฟดำเท่าไร่มันไม่ผอมสักที 😆😭